วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2552

มารยาทในที่ทำงาน" (Good Manner in the Office)


1. “คนและบริษัท” บริษัทประกอบไปด้วยหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ที่สำคัญที่เราต้องมีมารยาท ที่ดีด้วยก็คือคน ผู้ที่เข้ากับคนอื่นไม่ได้ดีก็ย่อมทำงานไม่ได้ จำได้ว่าเคยเขียนให้อ่านครั้งหนึ่งว่า “ไม่มีความชำนิชำนาญใดๆมาทดแทนความชำนิชำนาญในการเข้ากับบุคคลอื่นได้” การอยู่ในบริษัทประการแรกที่เราต้องกระทำดีต่อ หรือมีมารยาทที่ดีต่อก็คือการเข้ากับเพื่อนร่วมงานให้ได้ คำว่า “เอาใจเขาใส่ใจเรา หรือเอาใจเราใส่ใจเขา” หรือเอาทั้งใจเราใจเขามาใส่ทั้งในเราใจเขาก็ช่างเถอะ มีความหมายที่ดีทั้งนั้น แปลรวมความว่านึกถึงเขาบ้าง ว่าเขาหรือคนอื่นจะคิดอย่างไร ถ้าเราทำอย่างนี้ ถ้าคำตอบว่า”ไม่แน่ใจ” หรือ”คงไม่ชอบมั้ง” หรือ “ช่างเขาเถอะ” ละก้อ อย่าทำเลย เพราะ ล้วนแต่สิ่งที่ไม่มีมารยาททั้งสิ้น “ปลูกไมตรีอย่ารู้ร้าง...”นะเป็นเรื่องจำเป็นเหลือเกิน

2. “กฎระเบียบของบริษัท” นี่คือมารยาทที่สำคัญประการที่สองในการอยู่ในที่ทำงาน กฎเกณฑ์ หรือระเบียบต่างๆล้วนตั้งขึ้นมาเพื่อให้พวกเรา-ซึ่งมีอยู่มากมายได้อยู่ร่วมกัน อยู่ภายใต้ชื่อบริษัท เดียวกันได้อยู่ได้ในมาตรฐานเดียวกัน ได้รับการปฏิบัติจากบริษัท จากเพื่อนร่วมงานเหมือนกัน รวมทั้งจะได้รับสิ่งต่างๆในมาตรฐานเดียวกัน ดังนั้นกฎระเบียบตั้งขึ้นเพื่อพวกเราเองโดยแท้ ผู้ที่มี มารยาทในที่ทำงานจึงต้องเคร่งครัดในการปฏิบัติตาม อย่ามองว่าระเบียบมากมายอึดอัด ไม่ต้อง มีระเบียบเราก็ทำดีอยู่แล้ว คำพูดนี้นึกถึงนักเรียนที่เคยสอน เมื่อก่อนเป็นครูใจร้าย ใครไม่ท่อง ศัพท์ที่กำหนดให้แต่ละวันจะต้องถูกตีด้วยไม้บรรทัดพลาสติก 2 อันควบกัน แล้วก็หัก ครูก็จ่ายไป 2 หรือ 3 บาทแล้วแต่ราคาสมัยโน้น..น.(พวกเรายังไม่เกิดนั่นนะ) “...นักเรียนก็โวยว่าครูไม่เห็นต้องตีพวกเราก็ท่องอยู่แล้ว ทำไมต้องตีด้วย ครูก็บอกเขาว่า นั่นไง ครูไม่ได้ตีคนที่ท่องศัพท์ ดังนั่นคนที่ ท่องศัพท์ก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อนอะไร กฎอันนี้ไม่ใช้กับ พวกเธอที่ท่องศัพท์ แต่ใช้กับคนที่ไม่ท่องศัพท์”...”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น